ลิควิดคลอโรฟิลล์




ลิควิดคลอโรฟิลล์ Liquid Chlorophyll
(ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลิควิดคลอโรฟิลล์ชนิดน้ำ) 
เมื่อเจือจาง ใน 1 ช้อนโต๊ะ มีน้ำคลอโรฟิลล์ 15 มล.
ให้โซเดียมคอปเปอร์ คลอโรฟิลล์ 120 มก.
*วัตถุดิบนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา
วิธีใช้ : ผสม 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ในน้ำ 1แก้ว (150 มล.)

 ใช้ดื่มเวลาเช้าและเย็น
วิธีเก็บรักษา : ควรเก็บไว้ในตู้เย็นหลังจากเปิดขวดแล้ว
ควรเขย่าก่อนรับประทานทุกครั้งและหลีกเลี่ยงการผสมน้ำอุ่นและ

น้ำร้อน
อย.เลขที่ 10-1-04741-1-0276

ความรู้เกี่ยวกับคลอโรฟิลล์ 
คลอโรฟิลล์ คือ สารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลัก คือ สังเคราะห์แสง ( PHOTOSYNTHESIS ) โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ ก๊าชคาร์บอนได้ออกไซด์และแร่ธาตุต่าง ๆ จากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งให้ก๊าชออกซิเจนที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ คลอโรฟิลล์ธรรมชาติมีหลายชนิด บางชนิดสังเคราะห์แสงได้ในที่มีแสงแดดเท่านั้น แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง เช่น ในร่างกายของคน จึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงาน หรือปฎิกิริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคน พบว่าคลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้องและปิดกั้นด้วยผนัง หรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ระรบบการย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย เพื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์ เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเราได้ ถึงแม้ว่าเราจะบริโภคผักใบเขียวเป็นจำนวนมากในแต่ละวันก็ตาม อีกทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวของมันเองละลายน้ำไม่ได้จะละลายได้ในไขมันหรือใน แอลกอฮอล์บางชนิดเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์และบริสุทธิ์ โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่ และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้ (Water Soluble Chlorophyll) จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร
 ด้วยโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดงต่างกัน เฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียมและเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก จึงทำให้สีต่างกัน คือ คลอโรฟิลล์มีสีเขียวแต่เม็ดเลือดมีสีแดง จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า “เลือดของพืช” ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทยษ์มากมาย สรุปตรงกันออกมาว่า คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้จนผู้ทำวิจัยได้รับรางวัล โนเบล (NOBLE PRIZE) ไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกัน
 จากการทำวิจัยขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา กับผู้ป่วยแผลเปิด จำนวน 3,600 ราย พบว่าคลอโรฟิลล์ช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ให้เร็วขึ้น ทำให้แผลหายเร็วกว่าปกติ 25% ขึ้นไปและรอยแผลเป็นลดขนาดลงกว่า 50% หรือมากกว่า

คลอโรฟิลล์ช่วยคุณได้อย่างไร
จากประสบการณ์ของผู้ใช้ – ผู้บริโภคจากทั่วโลก

ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจของคลอโรฟิลล์ดังนี้
ทำให้ร่างกายสดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย
ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ
ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
ทำให้อาการของคนที่เป็นโรคภูมแพ้ แพ้อากาศ ผื่นลมพิษ ทุเลาลง
ขับกรดจากข้อต่อต่าง ๆ ทำให้อาการปวดข้อ

ปวดเมื่อยตามตัวทุเลาลง
ขับสารพิษออกจากร่างกาย สารตกค้างของยาปฎิชีวนะ สารเคมีตกค้างในอาหาร ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดี สุขภาพแข็งแรง

 สดชื่นขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดแดง
ทำให้ระเบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น
ป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้า
บรรเทาอาการชา บวมและเส้นเลือดขอดให้ทุเลาลงได้
บรรเทาอาการปวดศรีษะทั่วไป และปวดศรีษะไมเกรนได้
แก้ปัญหาสิวผ้า ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ข้อมูลข้างต้นเรียบเรียงจาก

หนังสือและข้อเขียนของ ดร.ฮาวเวิร์ด ไปเปอร์ (DR.HOWARD PEIPER)

การใช้คลอโรฟิลล์เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

 ในปัจจุบันตลาดเสริมอาหารในอเมริกา ยุโรป และบางประเทศในแถบเอเชียมีคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ คือ ชนิดที่ละลายในน้ำ ที่สามารถซื้อหามาได้ในราคาพอสมควรซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ที่ ไม่สามารถจะรับประทานพืชผักได้วันละกว่าหนึ่งกิโลกรัมอย่างชาวฮันซา หรือแม้แต่พืชผักสดผลไม้สดวันละอย่างน้อย 500 กรัม ซึ่งคนทั่วไปคงจะปฏิบัติตามได้ยาก ฉะนั้นคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์คือยอดของสารอาหารที่สกัดมาจากพิชผักสีเขียว จึงช่วยส่งเสริมบำรุงสุขภาพของเราให้ดีขึ้นดังต่อไปนี้
 1. ระบบเลือด คลอโรฟิลล์ ทำหน้าที่บำรุงเลือด ล้างพิษและทำลายอนุมูลอิสระ (Free Radicals)ในเม็ดเลือด ทำให้เลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวัดและเห็นผลได้ชัดเจน
การล้างพิษในเลือด การทำลายอนุมูลอิสระในเลือด การทำความสะอาดให้กับเลือด ทำให้เลือดทำงานมีประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นส่วนสำคัญมากในการที่จะมีสุขภาพแข็งแรง เป็นหัวใจของการกำรงชีวิตให้ยืนยาวและมีความสุข คลอโรฟิลล์ช่วยลดความดันโลหิตสูง เลือดที่มีความดันสุงทำให้เหนือยง่ายเป็นลมง่าย ที่สำคัญคือทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น คลอโรฟิลล์ช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจ ช่วยปรับการหมุนเวียนของโลหิตทั้งร่างกายให้ดีขึ้น คลอโรฟิลล์ไม่มีผลกับผู้ที่มีความดันเลือดปกติ คลอโรฟิลล์จึงเป็นเสริมอาหาร

บำรุงเลือดที่ดีที่สุด
2. ระบบทางเดินอาหาร คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ล้างพิษโดยตรงในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ ทำลายพิษตลอดระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ยังช่วยลดกลิ่นเหม็นของอุจจาระอีกด้วย คลอโรฟิลล์ช่วยสมานแผลที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหารและลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากอาหารเป็นพิษ กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ คลอโรฟิลล์จะไปเคลือบบริเวณที่อักเสบและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อให้ฟื้นตัวขึ้น มาในสองสามวันแรกที่รับประทานคลอโรฟิลล์ อาจจะพบว่าอุจจาระมีสีเขียว เป็นเพราะสีเขียวของคลอโรฟิลล์ในส่วนที่ร่างกายดูดซึมไม่หมด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าผนังลำไส้มีความสกปรกมานานแล้ว เมื่อรับประทานไปได้สัก 2 – 4 วันลำไส้จะสะอาดขึ้น สีเขียวจะค่อย ๆ จางลงไป ถ้าถ่ายเหลวมากไปไม่ใช่เพราะว่าเป็นผลข้างเคียงของคลอโรฟิลล์ แต่เป็นสิ่งที่แพทย์ธรรมชามติบำบัดเรียกว่า “ปฏิกิริยาตอบโต้การบำบัด (Healing Reaction) “

คืออาการอย่างหนึ่งของร่างกายที่คายพิษออกมา
3. บำรุงปาก ฟัน และระงับกลิ่นปาก คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์บำรุงสุขภาพของเหงือกและฟันให้แข็งแรง โรคเหงือกอักเสบและแผลในช่องปากจะทุเลาลงภายใน24 ชั่วโมง หลังจากอมน้ำคลอโรฟิลล์ วันละ 2 – 4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2 – 3 นาที คลอโรฟิลล์จะไปเคลือบเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในช่องปาก ไปฟื้นฟูเนื้อเยื่อให้ทำงานดีปกติ การอมคลอโรฟิลล์โดยเฉพาะมื้อก่อนนอนสำคัญที่สุด จะช่วยลดการเสื่อมของเหงือกและฟันได้ดี อมแล้วอย่าบ้วนทิ้ง ให้กลืนลงไปได้เลยเพื่อคลอโรฟิลล์จะได้ตามไปดับกลิ่นในกระเพาะอาหาร ลำไส้และทำความสะอาดระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย คลอโรฟิลล์ระงับกลิ่นปากได้ดี มนุษย์จะกลืนน้ำลายเป็นระยะ ๆ ทำให้ไม่มีคลอโรฟิลล์เหลืออยู่ภายในช่องปาก แต่เศษอาหารยังคงอยู่ตามซอกฟัน อมคลอโรฟิลล์ทุกวันก่อนนอนเป็นการบำรุงปากและฟันที่ดีมาก
4. รักษาแผลต่าง ๆ  คลอโรฟิลล์สามารถกำจัดแบคทีเรียและยับยั้งการเจริญเติบโตได้บางชนิด แต่ที่สำคัญคือคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ทำหน้าฟื้นฟูเนื้อเยื่อของแผลทุกชนิดทั้ง ภายนอกและภายในร่างกาย ซึ่งคุณสมบัติอันนี้ นายแพทย์ เดวิด สตีนบล็อค เชื่อ ว่ากลุ่ม ฟอร์ไฟริน (Porphyrin = โครงสร้างวงแหวน 5 เหลี่ยมของคาร์บอน 4 อะตอม ไนโตรเจน 1 อะตอม) เป็นจำนวนมากของคลอโรฟิลล์ไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสท์แผลจะมีพอร์ไฟรินอยู่มากมายช่วยรักษาแผล แผลจะหายเร็วกว่าปกติ
5. ระงับกลิ่น กลิ่นตัวแรงมีพื้นฐานมาจากรับประทานเนื้อสัตว์มาก โดยประกอบกับการย่อยอาหารและการดูดซึมของลำไส้ที่ระบบการทำลายกลิ่นทำงานไม่ ได้ผลเท่าที่ควร กระแสโลหิตจึงพาเอากลิ่นที่ไปกับอาหารเหล่านี้ไปสู่ผิวหนังและออกมาเป็น เหงื่อ การที่เหงื่ออกเป็นการล้างพิษอีกวิธีหนึ่ง แต่กลิ่นเหงื่อที่รุนแรงผิดปกติ คือกลิ่นตัวแรง ย่อมไม่เป็นที่พึงปรารถนาของคนทั่วไป
ดร.เวสต์คอตต์ ได้วิจัยพบว่าคลอโรฟิลล์ สามารถกำจัดกลิ่นตัวได้ดี ผู้ที่มาทำการรักษาบางรายไม่มีกลิ่นตัวเหม็นเหลืออยู่เลย บางรายอาจมีกลิ่นตัวลดลงมาก แม้จะไม่หมดแต่ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจกลิ่นอุจจาระที่รุนแรง การผายลมที่มีกลิ่นแรงมาก จนบางรายจะสังเกตได้ว่ามีแมลงวันบินอยู่รอบ ๆ ตัว ตลอดจนการเรอออกมามีกลินผิดปกติเหล่านี้ เป็นผลจากการเน่าเหม็นของอาหาร การรับประทานคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 60 -120 มิลลิกรัม (8 – 15 ซีซี) ทุกคั้งหลังอาหารประเภทเนื้อสัตว์ จะแก้ไขปัญหาของกลิ่นเหล่านี้ได้ดี
6. ควบคุมความสมดุลของแคลเซี่ยม ผู้ที่บริโภคเนื้อสัตว์(ที่เลี้ยงด้วยสารเคมี) เป็นอาหารหลัก จะขาดความสมดุลของธาตุแคลเซี่ยม ผู้ที่บริโภคเนื้อเกินไปส่วนมากเป็นโรคขาดความสมดุลของแคลเซี่ยมแทบทั้งสิ้น แคลเซี่ยมทำหน้าที่หลายอย่าง การขาดแคลเซี่ยมทำให้ป่วยเป็นโรคสารพัดชนิดตั้งแต่โรคกระดูกผุ โรคหัวใจ โรคกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง โรคเลือดไม่แข็งตัวเมื่อมีบาดแผล
การคืนความสมดุลของแคลเซี่ยมทำได้โดยอาศัยหลักของธรรมชาติ
2 ประการคือ
ประการแรก ออกกำลังกายกับกระดูกโดยการเดินให้มีแรงกระแทก เป็นวิธีที่ดีที่สุดทำให้เซลล์กระดูกมีการสร้างได้ดีและรวเร็ว และทำให้การสูญเสียกระดูกเกิดขึ้นช้า การวิ่งเหยาะที่เรียกว่า
วิ่งเหยาะๆครั้งละ 20 – 40 นาที อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 – 3 วันก็ได้ผลดี การเดินนอกจากเป็นการออกกำลังกระดูกและกล้ามเนื้อแล้ว ยังทำให้สารพิษต่าง ๆ ในเส้นเลือดดำที่ถูกฟอกจากปอดไหลกลับเข้าสู่หัวใจได้รวดเร็วขึ้น
ประการที่สอง การบริโภคพืชผักสดมาก ๆ เพื่อต้องการคลอโรฟิลล์ เป็นวิธีธรรมชาติของชาวฮันซา ชาวฮันซามีการควบคุมความสมดุลของแคลเซี่ยมในร่างกายได้ดีเยื่ยม เป็นเพราะผลของคลอโรฟิลล์จากพืชผักสีเขียวนั่นเอง
7. โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้โดยทั่วไปเกิดจากการที่อากาศเป็นพิษ โดยการสะสมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาหารประเภทเนื้อ นม ไข่ นั้นนอกจากจะได้มาจากการใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะแล้ว ในตัวของมันเอง เช่น อาหารจานด่วน หรืออาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ยังเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดสารมูก ทำให้การดูดซึมสารอาหารและแร่ธาตุต่าง ๆ น้อยลง ตัวสารมูกเองบางส่วนเข้าไปกระแสเลือดเกิดเป็นพิษขึ้น ทำให้เกิดป่วยเป็นโรคต่าง ๆ คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์เป็นเสริมอาหารและยังใช้ภายนอก (หยอดหรือทา) เพื่อล้างพิษช่วยบรรเทาอาการแพ้ต่าง ๆ ได้ดี ทำให้หายจากอาการต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น เช่น อาการเจ็บคอ และต่อมทอนซิลอักเสบ ใช้คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ในน้ำอุ่นในอัตราส่วน 1 ต่อ 5 ส่วนถึง 1 ต่อ 10 ส่วน กลั้วคอทุก ๆ 2 – 3 ชั่วโมง จะช่วยระงับการอักเสบได้ดี
8.ยาบำรุงร่างกาย อาหาร 5 หมู่ประกอบด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรท (แป้ง) ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เหล่านี้ร่างกายเราต้องการในสัดส่วนที่พอเหมาะ ถ้าได้รับมากเกินไปหรือน้อยเกินไปจะทำให้ร่างเจ็บป่วย อาหาร 5 หมู่ มีขนาดใหญ่ ซึ่งร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ได้ทันที ระบบทางเดินอาหารจะมีการย่อยอาหาร 5 หมู่ ให้มีขนาดเล็กลงเป็นโมเลกุลที่พอเหมาะ เพื่อเข้าสู่กระแสโลหิตและน้ำเหลือง ดังนั้น คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่ส่งเสริมขบวนการเมตาโบลิสม์ให้ทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และสอดคล้องร่วมกัน (Synergistic and combined function)โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลอโรฟิลล์ไปกระตุ้นการทำงานของวิตามินและแร่ ธาตุต่าง ๆ เช่น
ควบคุมความสมดุลของแคลเซี่ยมในร่างกาย

ราคา ขวดละ  900  บาท